ขอต้อนรับเข้าสู่ blog ใหม่ของผมน่ะคับ
คือ blog นี้ของผม จะเป็น blog ที่รวบรวมข่าวสารอัพเดต เกี่ยวกับ ชีววิทยา แบบไม่ให้ตกเทรนด์เลยหล่ะคับ
รับรองมีอัพ กันทุกวันๆ ชัวๆ คับ
รับประกันได้
งั้นเรามาเริ่มอัพกันก่อนเลยนะคับ
เรื่องแรกเลย

ปลิง กับ การรักษาโรคทางการแพทย์
หลายคนอาจจะรู้จักปลิงในฐานะของปรสิตที่ดูดเลือด
กินเป็นอาหาร และคิดว่าปลิงเป็นสัตว์ที่เป็นอันตรายต่อ
มนุษย์ แต่ทราบหรือไม่ว่าที่จริงแล้วปลิงถูกนำมาใช้
ช่วยรักษาโรคได้
ปลิง = ไฟลัมแอนนิลิดา (Annelid) subclass Hirudinea
-มีสองเพศในตัวเดียว (Hermaphrodite) คือมีทั้งอันฑะและรังไข่อยู่ในตัวเดียวกัน
ผสมพันธุ์ภายในตัวเองโดยใช้ clitellum ในการเก็บไข่
ปลิงอาศัยอยู่ทั้งบนบกและในน้ำ มีขนาดลำตัวอยู่ระหว่าง 5 – 45 มิลลิเมตร
ปลิงบางชนิดเป็นปรสิตที่กินเลือดสัตว์จำพวกปลาไปจนถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมและมนุษย์
โดยปลิงจะใช้อวัยวะที่เรียกว่าแว่นดูดหรือ sucker ซึ่งภายในจะมีขากรรไกรที่มีลักษณะเป็น 3 แฉกแต่ละแฉก
จะมีฟันซี่เล็กๆอยู่จำนวนมากใช้สำหรับเกาะที่ตัวเหยื่อ
( เวลาโดนปลิงเกาะ ตอนเอามันออก ลอยตอนเกาะ เหมือน เบนซ์ เลยอ่า เหอๆ )
นอกจากนั้นในน้ำลายของปลิงยังมีสาร Hirudin ที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด
ทำให้เลือดบริเวณที่ถูกปลิงกัดนั้นมีการไหลเวียนได้ตลอดเวลา และนี่คือเหตุผลที่แพทย์เลือกปลิงมาใช้เป็น
การแพทย์ทางเลือก
ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์ได้มีการค้นคว้า
และทำงานวิจัยเพื่อนำปลิงมาใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการอักเสบ ปวดบวม
หรือมีอาการทางสมองเช่น ปวดศีรษะหรือเลือดคั่งในสมอง
โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องใช้การปลูกผิวหนังหรือเนื้อเยื่อรวมไปถึงการผ่าตัดอวัยวะต่างๆ
เช่น การต่อกระดูกนิ้วเท้า ต่อแขน ขา
โดยปลิงจะถูกนำมาช่วยรักษาอาการเลือดคั่งตามผิวหนังบริเวณที่เพิ่ง
ได้รับการปลูกถ่ายใหม่ตลอดจนช่วยฟื้นฟูระบบการหมุนเวียนของเลือดบริเวณที่ผ่าตัดได้
ดังจะเห็นได้จากผลการวิจัยของ Essen – Mitte Clinic ในเยอรมันที่นำปลิงมาใช้รักษาคนไข้จำนวน 16 คน
โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่มีอายุเฉลี่ย 68 ปีและได้รับความเจ็บปวดจากโรคข้อต่อกระดูกอักเสบ
ซึ่งวิธีการรักษานั้นเริ่มจากการนำปลิงจำนวน 4 ตัวไปวางไว้ตรงบริเวณที่ผู้ป่วยมีอาการปวด
เช่น บริเวณหัวเข่า จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วจึงนำปลิงออก
ทำเช่นนี้ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าอาการปวดนั้นบรรเทาลง
ถ้าสังเกตจากขั้นตอนการรักษาแล้วดูเหมือนว่าปลิงจะมีส่วนช่วยทำให้อาการปวดนั้นบรรเทาลงได้
แต่ความจริงแล้วที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บปวดนั่นอาจเป็นเพราะผู้ป่วยได้รับสาร Hirudin
ในน้ำลายของปลิงที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดความรู้สึกชา
นั่นหมายความว่าปลิงไม่ได้ช่วยทำให้อาการของโรคข้อต่อกระดูกอักเสบหายไป
เพียงแต่ช่วยทำให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บปวดในขณะที่ทำการรักษามากกว่า
ส่วนข้อควรระวังของการนำปลิงมาใช้รักษาโรคคือ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการแพ้สาร Hirudin
ที่ได้รับจากปลิง อาจทำให้เกิดอาการแพ้จนเกิดเป็นผื่นคันตามผิวหนัง
และอาจมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนร่วมด้วย
ดังนั้นแพทย์จึงต้องทำการทดสอบผู้ป่วยก่อนทุกครั้งก่อนที่จะนำปลิงมาใช้รักษาทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของ
ตัวผู้ป่วยเอง
ละตกลง มันรักษาได้ รึว่ามัน ทำให้ชาเฉยๆ เนี่ย
เหอๆ